รหัสลับบุคคล
(PIN Code : Personal
Identification Number Code)
PIN Code คืออะไร
PIN Code คือชุดตัวเลขหรือตัวอักษรที่กำหนดขึ้นเป็นรหัสลับเฉพาะส่วนบุคคลที่ใช้ร่วมกับเลขประจำตัวประชาชนเพื่อใช้เป็นรหัสผ่านเข้าสู่ระบบงานหรือการให้บริการในระบบคอมพิวเตอร์ ภายใต้ข้อกำหนดหรือรูปแบบของหน่วยงานผู้ให้บริการจะกำหนดขึ้น
PIN Code กับ กรมการปกครอง
กรมการปกครองได้พัฒนาระบบงานการให้บริการประชาชนทางด้านงานทะเบียนและบัตรด้วยระบบคอมพิวเตอร์มาอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพและประชาชนที่ไปติดต่อขอใช้บริการได้รับความสะดวกรวดเร็วประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
จากการพัฒนาระบบงานอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนทุกหนแห่งมีสิทธิเข้าถึงการบริการของภาครัฐที่เปิดให้บริการข้อมูลด้านต่างๆ
ได้อย่างทั่วถึงผ่านระบบเครือข่าย กรมการปกครองจึงได้ขยายรูปแบบการให้บริการโดยได้รับความเห็นชอบและอนุมัติจากอธิบดีกรมการปกครองให้สำนักบริหารการทะเบียนเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบนำโครงการรหัสบุคคล(PIN
PROJECT) มาใช้ พร้อมทั้งให้กล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์คนไทยดอทคอมฟรี (Free E-mail
Address khonthai.com) แก่คนไทยทุกคนที่มีรหัส PIN Code เพื่อใช้ในการรับ-ส่งจดหมายผ่านระบบเครือข่าย
Internet ที่เว็บไซต์ www.khonthai.com
เริ่มใช้รหัส PIN Code เมื่อไหร่่
กรมการปกครองได้เริ่มให้บริการรหัส PIN Code เป็นการทดลองปฏิบัติ
ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2544 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นรหัสผ่านควบคู่กับเลขประจำตัวประชาชนเพื่อเข้าสู่ระบบการให้บริการตรวจสอบข้อมูลของตนเองและเป็นรหัสผ่านเข้าสู่กล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
(E-mail) ที่ได้มาพร้อมกับรหัส PIN Code ผ่านInternet ที่www.dopa.go.th และ www.khonthai.com
ผู้มีสิทธิ และ การไปติดต่อขอรับ PIN Code
1. ประชาชนคนไทยทุกคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านถูกต้องตามกฎหมายมีสิทธิขอรับได้ทุกคน
PIN Code
2. หากท่านต้องการ สามารถไปขอรหัส PIN Code ได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอ สำนักงานเขต
หรือเทศบาล แห่งใดก็ได้ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้สำนักทะเบียนสามารถออนไลน์ทั่วถึงกันทุกแห่งแล้ว ให้ไปติดต่อขอรับที่งานทะเบียนราษฎร
3. โปรแกรมให้รหัสลับบุคคล หรือ PIN Code นี้จะอยู่ที่ โปรแกรมรับแจ้งให้บริการงานทะเบียนราษฎร ข้อที่ 11
4. ผู้ขอต้องเป็นเจ้าของข้อมูลเท่านั้น
5. หลักฐานที่ใช้ เพียงบัตรประจำตัวประชาชนก็พอแล้ว (สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตรสามารถนำหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาใบสูติบัตรไปยื่นขอได้ที่งานทะเบียนราษฎร)
ปล. ไม่มีค่าใช้จ่าย-ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น
รหัส PIN Code ที่ได้มาเป็นอย่างไร
รหัส PIN Code ที่ได้มา (อาจเป็นตัวเลขหรือตัวอักษร 4 ตัว) มี 2 ชุด อยู่คนละบรรทัด ชุดที่
1 บรรทัดบน เรียกว่า PIN 1 ชุดที่ 2 บรรทัดล่าง เรียกว่า PIN 2 โดยทั่วไปจะใช้ PIN 1 ส่วน PIN 2 จะใช้ในบางโปรแกรมซึ่งจะระบุให้ใช้ทั้ง PIN
1 และ PIN 2 โดยจะมีคำชี้แจงแจ้งให้ทราบไว้อย่างชัดเจน
เมื่อท่านได้รหัส PIN Code มา ท่านจะได้รับกล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์คนไทยดอทคอมโดยอัตโนมัติด้วย
ซึ่ง e-mail address ของท่านคือ pตามด้วยเลขประจำตัวประชาชนของท่าน@khonthai.com ดังตัวอย่าง p3100199999001@khonthai.com ฟรีทันทีซึ่งให้เนื้อที่เก็บจดหมายขนาด
2 เมกะไบต์ (Megabytes) และสามารถแนบไฟล์ข้อมูลได้ครั้งละ 30 กิโลไบต์ (Kilobyte)
เมื่อใดก็ตามที่เนื้อที่เก็บจดหมายของท่านเต็มท่านจะไม่สามารถรับจดหมายใหม่ได้ท่านต้องทำการลบจดหมายที่ไม่ต้องการทิ้งด้วยตัวท่านเอง
การใช้รหัส PIN Code
เมื่อท่านได้รับรหัส PIN Code มาท่านสามารถเข้าสู่ระบบตรวจสอบข้อมูลตนเองได้ทันที
สำหรับการเข้าใช้งานระบบ webmail khonthai ท่านจะใช้งานได้ในวันถัดไป
ช่องทางการเข้าใช้งาน มีดังนี้
1. ที่เว็บไซต์ www.dopa.go.th และ คลิกที่ Banner : Thailand Gateway
2. ที่เว็บไซต์ www.khonthai.com และ คลิกที่หัวข้อ Thailand Gateway หรือ หัวข้อประตูสู่การบริการภาครัฐ
หรือ URL : http://www.khonthai.com/thailandgateway/
3. ใช้ผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ (MPM : Multi Purpose
Machine) ซึ่งเป็นเครื่องบริการประชาชนอัตโนมัติ มีระบบให้บริการประชาชนหลากหลายรูปแบบ
อาทิ การคัดสำเนารายการข้อมูลตนเอง การแจ้งย้ายเข้าหรือออกจากทะเบียนบ้านแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องไปทำที่อำเภอ ฯลฯ จะเปิดให้บริการ
ในเร็ว ๆ นี้
ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างไร
1. เป็นรหัสสำหรับเข้าตรวจสอบข้อมูลของตนเองจากฐานข้อมูลโดยตรง เช่น ข้อมูลตามทะเบียนราษฎร ข้อมูลการทำบัตร ข้อมูลการจดทะเบียนสมรส
/ หย่า ฯลฯ
2. เป็นรหัสสำหรับเข้าตรวจสอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ ของภาครัฐที่ทางราชการจะแจ้งสิทธิต่างๆ
ของท่านให้ทราบผ่านทางเลือกนี้ และที่จะเปิดให้บริการเพิ่มเติม เช่นสิทธิการเลือกตั้งประกันสุขภาพประกันสังคม
การขึ้นทะเบียนทหารการทำใบขับขี่ฯลฯ
3. เป็นรหัสสำหรับเข้าขอตรวจคัดรับรองสำเนารายการทะเบียนข้อมูลของตนเองผ่านทาง
Internet และตู้บริการอเนกประสงค์ (MPM) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดต่อหน่วยงานใด
ๆ ได้โดยไม่ต้องพกพาเอกสารติดตัว
4. เป็นรหัสสำหรับเข้าสู่กล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail
Address khonthai.com) เพื่อรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารได้
5. เป็นรหัสสำหรับการยืนยันตัวบุคคลในการขอทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งต่อไป
เพื่อเป็นการป้องกันบุคคลอื่นมาสวมตัวหรือสวมสิทธิขอท่านในการทำบัตร
6. เป็นรหัสในการขอเข้ารับบริการต่างๆ ภาครัฐ (E-GOVERNMENT)
7. เป็นรหัสในการแสดงความคิดเห็นและลงประชามติ
8. เป็นรหัสในการขอเข้ารับบริการทางธุรกิจ (E-BUSSINESS)
9. เป็นรหัสในการยื่นคำร้องสอบถามข้อมูลหรือจ่ายค่าบริการภาครัฐ
10. ประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วในการขอใช้บริการทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่รัฐ จัดทำขึ้นให้แก่ประชาชนเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นและในอนาคตอันใกล้นี้
ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากที่จะตามมาดังนั้นรหัสบุคคลจึงมีความจำเป็นสำหรับทุกคนขอให้เก็บรักษาไว้ให้ดีและพยายามจดจำไว้ให้แม่นยำ
"สิทธิของท่านท่านพึงต้องรักษาไว้ด้วยตัวของท่าน"